เราต่างต้องการซูเปอร์ฮีโร่เป็นของตัวเอง
แจ็ค – กิตตินันท์ อนุพันธ์ CEO & Co-Founder, Claim Di
เชื่อได้ว่าเด็กผู้ชายหรือแม้แต่เด็กผู้หญิงหลายคนต่างเติบโตมากับการชมการ์ตูนแนวซูเปอร์ฮีโร่ เวลานั้นเราอาจรับชมเพื่อความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การ์ตูนที่แต่เดิมให้เพียงความบันเทิง กลับสอดแทรกแง่คิดและสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้กับเรามหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ
แจ็ค – กิตตินันท์ อนุพันธ์ ก็เป็นหนึ่งในเด็กที่เติบโตมากับการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ จากประสบการณ์ความคลั่งไคล้ในวัยเยาว์ นำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างแอพลิเคชั่นสำหรับการช่วยเหลือในสภาวะฉุกเฉิน (Emergency) ก่อเกิดเป็นบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด ที่เขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในปัจจุบัน
“ผมเชื่อว่าทุกประเทศต้องการฮีโร่ครับ แม้กระทั่งประเทศไทยยังมีอินทรีแดง เพราะซูเปอร์ฮีโร่คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีพลังแรงกล้าพอในการช่วยชีวิตคนอื่น”
บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด เป็นบริษัทผลิตแอพลิเคชั่นสำหรับการช่วยเหลือในสภาวะฉุกเฉิน พัฒนาสร้างสรรค์ออกมาแล้วหลากหลายซีรี่ส์ อาทิ BES i lert U บริการเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพฯ, Police i lert U บริการขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ฯลฯ รวมไปถึงแอพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง เคลมดิ (Claim Di)
เคลมดิ เป็นบริการแอพพลิเคชั่นแรกในประเทศไทยที่ช่วยให้ผู้ขับรถยนต์สามารถทำเคลมประกันภัยได้โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ (Surveyor) ก้าวข้ามการทำงานแบบเดิมที่ผู้ประสบภัยต้องโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่มาทำ เคลม โดยเปลี่ยนมาให้ผู้ประสบภัยทำการเคลมได้เอง กระบวนการดังกล่าวเป็นการพัฒนามาจาก Solution ‘มาเร็ว เคลมเร็ว’ ที่คุณแจ็คคิดค้นขึ้นในอดีต บวกด้วยประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมากว่า 20 ปี
“แต่เดิมเราใช้ชื่อ เอนนี่แวร์ ทู เคลม (Anywhere 2 Claim) พอเปลี่ยน Business Model จาก SME สู่สตาร์ทอัพ (Startup) เราจึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เท่ สั้น กระชับ และจำง่าย สุดท้ายก็มาจบที่เคลมดิ ซึ่งมาจาก ‘รถชนเหรอ? ก็เคลมดิ’ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ทำเคลมดิเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่เราทำมานานแล้ว”
เคลมดิมีระบบปฏิบัติการณ์ตอบสนองความช่วยเหลือด้านประกันภัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น i lert U ระบบขอความช่วยเหลือเข้ามาที่บริษัทประกันภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเห็นตำแหน่งจุดเกิดเหตุ ทะเบียนรถ กระทั่งกรมธรรม์ของลูกค้าทันที, ระบบ ISP (Inspection) ที่ลูกค้าสามารถทำการสำรวจรถของตนเองเพื่อขอทำการอนุมัติกรมธรรม์ได้โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ หรือระบบ NA (Non Accident Claim) ที่ลูกค้าสามารถทำรายการเคลมได้เองแบบไม่มีคู่กรณี เพียงแค่ถ่ายภาพส่งมา ฯลฯ
ทั้งนี้ หากสังเกตจะพบว่าทุกแอพพลิเคชั่นของเอนนี่แวร์ ทู โก ล้วนมีระบบปฏิบัติการหลักคล้ายกัน คือระบุตำแหน่งและขอความช่วยเหลือแบบ Real Time เป็นการลดขั้นตอนการช่วยเหลือแบบเดิมๆ ให้รวดเร็วทันท่วงที หรือกล่าวได้ว่าเป็นการลดเวลาในการเข้าถึงการช่วยเหลือนั่นเอง
แล้ว ‘เวลา’ สำคัญไฉน?
“เวลาเป็นสิ่งสำคัญมากครับ เพียงไม่กี่นาทีอาจหมายถึงชีวิตคนหนึ่งคน เช่น ถึงแม้คุณไม่ได้เป็นผู้เดือดร้อน แต่คุณเห็นคนอื่นเดือดร้อน แค่คุณแชร์แจ้งเตือนผ่านระบบ i lert U ผู้ประสบภัยก็อาจรอดชีวิต”
“ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ครับ ถ้าเราลดเวลาในการช่วยเหลือได้ การสูญเสียก็จะน้อยลง”
ไม่ต่างจากระบบการทำงานที่ทุกบริษัทล้วนต้องการความรวดเร็ว ความที่ปัจจุบัน เอนนี่แวร์ ทู โก เป็นองค์กรใหญ่มากขึ้น มีพนักงานกว่า 170 คน และพนักงานขับมอเตอร์ไซค์กว่าอีก 1,000 คนทั่วประเทศ วันๆ หนึ่งจึงต้องพรินท์รายงานเอกสารส่งบริษัทประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง พรินเตอร์ที่คุณแจ็คปรารถนาจึงต้องพรินท์งานได้เร็วที่สุด
“พรินเตอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผมต้องมีคุณภาพ ทั้งการบริการ รับประกัน การบำรุงรักษา รองรับกระดาษได้หลายรูปแบบ และต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ประหยัด ที่สำคัญคือต้องมีระบบ WiFi เพราะปัจจุบันเราแทบไม่ได้ใช้สายแลนกันแล้ว การส่งข้อมูลออนไลน์มาพรินท์จึงเป็นเรื่องสำคัญ”
ท้ายที่สุด เส้นทางฮีโร่มิได้โบยบินในสายรุ้งเสมอไป หากมีเมฆหมอกอุปสรรคที่เข้ามาขว้างกั้นเสมอ หนึ่งในนั้นคือการค้นพบว่า คนประมาทมักไม่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
“คนดาวน์โหลดส่วนใหญ่เป็นคนไม่ประมาท เขาไม่ขับรถปาดหน้าใคร ไม่เกเร ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงภัย ทำให้เราไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ส่วนคนประมาทคือคนที่ไม่ดาวน์โหลด เราจึงเปลี่ยน Business Model มาหาเงินจากคนประมาท รับจ้างเป็น Call Center ให้ประกันภัยแทน เพราะยังมีคนประมาทที่เกิดอุบัติเหตุอยู่”
ด้วยเหตุนี้ คุณแจ็คจึงตั้งเป้าหมายในระยะอันใกล้ว่า อยากเปลี่ยนพฤติกรรมทุกคนให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ติดสมาร์ทโฟนไว้เป็นเรื่องสามัญปกติ เพื่ออนาคตจะได้มีแอพพลิเคชั่นสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินไว้ใช้ตลอดไป
“แม้ว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์จะเป็นเรื่องยากก็ตาม แต่มันพิสูจน์แล้วว่าต้องใช้เงินอย่างมหาศาล เป้าหมายของผมคือเราจะทำอย่างไรให้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้อยู่กับคุณตลอดไป”
ณ วันนี้ เคลมดิมีบริษัทให้บริการเคลมประกันภัยรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่นมากกว่า 30 บริษัท คิดเป็นจำนวนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนกรมธรรม์รถยนต์ในประเทศไทย และหากรวมกับซีรี่ส์แอพพลิเคชั่นอื่นๆ ในเครือ คุณแจ็คเชื่อว่าเขาได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนในสภาวะฉุกเฉินได้ประมาณหนึ่งแล้ว
“ผมคิดว่าซูเปอร์ฮีโร่คือผู้ช่วยชีวิตคนครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เราแค่นำฮีโร่มาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เราทำกันอยู่เท่านั้นเอง”
อาจเพราะลึกๆ แล้วมนุษย์ต้องการความช่วยเหลือ เราจึงสร้างซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นมาเป็นการ์ตูนหรือจินตนาการ โดยหวังว่าเขาจะมาช่วยเราในที่เกิดเหตุได้เร็วที่สุด โลกแห่งความจริงจึงต้องมีใครสักคนที่มีพลังแรงกล้าพอในการช่วยชีวิตคนอื่น และสร้างสรรค์ซูเปอร์ฮีโร่ให้เห็นออกมาเป็นรูปธรรม
เฉกเช่น บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด ที่ได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับสภาวะฉุกเฉิน
เปลี่ยน ‘เทคโนโลยี’ เป็น ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ที่คุณต้องการ
website : www.claimdi.com